ตัวอย่างการซื้อขาย SPOT  GOLD   

ราคาที่เปิดซื้อของ GOLD SPOT จำนวน 2 units ที่ตลาด comex xauusd

ราคา Price = 903.00 (bid)                 903.70 (ask)

Open Buy (O/B) เปิดซื้อจะได้ที่ราคา  903.70      ต่อ 1 Troy  Oz.

ถ้าเข้าซื้อถูกตามแนวโน้มของตลาด  > ราคา Gold Spot   จะสูงขึ้น เป็น

ราคา  Price = 915.10 (bid)                     915.80 (ask)

ถ้าต้องการปิดรอบของการซื้อขาย เพื่อทำกำไรระยะสั้น ต้องปิดด้วยคำสั่งขาย  Settle Sell (S/S)

จะได้ที่ราคา  915.10 ต่อ 1 Troy Oz.

สูตรการคำนวณกำไร

(ราคาขาย - ราคาซื้อ) x น้ำหนักตามสัญญา x units – commission 

(915.10 – 903.70) x 100 x 2 – 70 x 2

จะทำกำไร 2,140 USD = 74,900 (1 USD = 35 บาท)

ราคาที่เปิดซื้อของ GOLD SPOT จำนวน 3units ที่ตลาด comex xauusd

ราคา Price = 903.00 (bid)                 903.70 (ask)

Open Buy (O/B) เปิดซื้อจะได้ที่ราคา  903.70      ต่อ 1 Troy  Oz.

ถ้าเข้าซื้อถูกตามแนวโน้มของตลาด  > ราคา Gold Spot   จะลดต่ำลง เป็น

     ราคา  Price = 889.70 (bid)                 890.40 (ask)      

ถ้าต้องการปิดรอบของการซื้อขาย เพื่อยุติการขาดทุน ต้องปิดด้วยคำสั่งขาย  Settle Sell (S/S)

จะได้ที่ราคา  889.70   ต่อ 1 Troy Oz.

สูตรการคำนวณกำไร

(ราคาขาย - ราคาซื้อ) x น้ำหนักตามสัญญา x units – commission 

(903.70 – 889.70) x 100 x 3 – 70 x 2

จะกำไรสุทธิ : 4,410 USD = 154,350 (1 USD = 35 บาท)

  

ปัจจัยที่มีนัยสำคัญต่อราคาทองคำ

1.    ค่าเงินดอลลาร์ ราคาทองคำเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจาก ค่าเงินดอลลาร์เป็นเงินสกุลหลักที่มีความเป็นสากลที่สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนได้ทั่วโลก และเป็นที่ยอมรับของนักลงทุนทั่วโลกเช่นเดียวกับทองคำ

2.    ราคาน้ำมัน (สินค้าโภคภัณฑ์) ราคาน้ำมันเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีนัยสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในปัจจุบัน ซึ่งการเคลื่อนไหวจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เนื่องจาก น้ำมันจัดได้ว่าเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่อยู่ในกลุ่มสินค้า ที่มีความใกล้เคียงกับทองคำและกลุ่มโลหะมีค่ามากที่สุดเมื่อเทียบกับสินค้าโภคภัณฑ์กลุ่มอื่น อีกทั้งน้ำมันยังเป็นตัวที่มีผลต่อภาวะเงินเฟ้อโดยตรงในปัจจุบัน ซึ่งเงินเฟ้อกับราคาทองคำจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันอยู่แล้ว ตามทฤษฏี ดังนั้นเมื่อมีปัจจัยใดที่มากระทบต่อราคาน้ำมัน ก็จะส่งผลถึงราคาทองคำด้วยเช่นกัน

3.    วิกฤตการณ์ทางการเมือง ในปัจจุบันนี้วิกฤตการณ์เมืองเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อราคาทองคำมากพอสมควร ซึ่งส่วนใหญ่จะส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากในระหว่างช่วงที่เกิดวิกฤตการณ์เมืองต่างๆนั้น ความต้องการที่เข้าถือทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงเพิ่มสูงขึ้นตามความรุนแรงของวิกฤตการณ์นั้นๆ

4.    นโยบายทางการเงินและอัตราดอกเบี้ย เป็นปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคำทางอ้อมผ่านทางการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากการปรับตัวของอัตราดอกเบี้ยของประเทศต่างๆ และภาวะเศรษฐกิจในช่วงนั้นโดยสังเกตผ่านทาง ตัวเลขเศรษฐกิจ ที่ประกาศทุกสัปดาห์ ตัวอย่างเช่น กรณีธนาคารกลางสหรัฐประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย จะทำให้มีนักลงทุนเข้าซื้อเงินดอลลาร์มากขึ้นเนื่องจากได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น อีกทั้งในปัจจุบันการเคลื่อนย้ายเงินของโลก เป็นไปอย่างเสรี ทำให้เงินลงทุนสามารถเคลื่อนย้ายจาก สินทรัพย์หนึ่งไปสินทรัพย์หนึ่งได้อย่างรวดเร็ว ตามข้อมูลข่าวสาร ที่มีอย่างสมบูรณ์ ทำให้เวลาสหรัฐปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น ค่าเงินดอลลาร์จึงแข็งค่าขึ้นและราคาทองคำปรับลดลง เป็นต้น

5.    วัฏจักรธุรกิจ วัฏจักรธุรกิจเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลกระทบต่อราคาทองคำ ซึ่งสังเกตเห็นได้จาก ปริมาณการซื้อขาย ในแต่ละช่วงเวลาของแต่ละปี เช่น ช่วงฤดูร้อน (Summer) ของทวีปยุโรปและอเมริการะหว่างเดือน กรกฎาคม – สิงหาคม ของทุกปี จะมีปริมาณการซื้อขายเบาบางกว่าในช่วงเวลาอื่นของปี เนื่องจาก ในช่วงฤดูร้อน (Summer) ของทุกปี จะเป็นช่วงเวลาใน การพักผ่อนของประชาชนส่วนใหญ่ อีกทั้งTrader ของตลาดการเงินและทองคำ ส่วนใหญ่มักจะลาพักร้อนในช่วงเวลานี้ จึงส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายทองคำในตลาดลดลง และทำให้ราคาทองคำในช่วงนี้ ลดความผันผวนลงมาก เมื่อเทียบกับช่วงเวลาอื่นของปี

ตารางเปรียบเทียบระหว่าง ตลาดหุ้น กับ SPOT GOLD
ตลาดหุ้น SET50 Index	ตลาด SPOT GOLD
1. ลงทุน 100% เช่นซื้อหุ้น Kbank 10kหุ้น	1. ลงทุน 1.6% จากมูลค่าจริง เช่นราคาทอง $930
หุ้นละ 300บาท เงินลงทุนเป็นเงิน 3ล้านบาท	ลงทุน 2 หุ้น มูลค่า 930*100*35 = 3,255,000฿
	เงินลงทุนเป็นเงิน 52,080บาท
2. เสียค่าคอม 0.25%*3ล้าน = 7,500฿	2. ค่าคอมคงที่ที่ $70 (2,450)
3. มีเสียภาษีเงินได้สุทธิ	3. ภาษีเสียรวมในค่าคอมแล้ว
4. ข่าวสารจากตลาดหุ้นไทยไม่แน่นอน	4. ข่าวสารแน่นอนชัดเจน ตามเศรษฐกิจโลก
5. มูลค่าของหุ้น มีโอกาสเป็น ศูนย์	5. มูลค่าของทองไม่เป็น ศูนย์ มีแต่ แพงกับถูก
6. ระยะเวลายาวนานในการฟื้นตัว	6. ระยะเวลาไม่ยาวนาน
ตารางเปรียบเทียบระหว่าง ธุรกิจทั่วไป กับ ตลาด SPOT GOLD
ธุรกิจทั่วไป	ตลาด SPOT GOLD
1. ลงทุนด้วยเงินสดขั้นต่ำ 70-100%	1. ลงทุน 1.6% จากมูลค่าจริง
2. ค่าใช้จ่ายหลายทาง Ex. ค่าแรง ค่าขนส่ง ฯลฯ	2. เสียค่าคอมตายตัวที่ $70 ต่อ 1 หุ้น
3. มีคู่แข่ง	3. ไม่มีคู่แข่ง
4. ใช้เวลาคืนทุนนานเป็นปี	4. ใช้เวลาไม่นาน ก็สามารถคืนทุนได้
5. การให้ Credit ลูกค้ามีโอกาส เป็นหนี้ศูนย์	5. ไม่มีโอกาสหนี้ศูนย์
ตารางเปรียบเทียบระหว่าง ตลาด Gold Futures กับ SPOT GOLD
ตลาด Gold Futures	ตลาด SPOT GOLD
1. ลงทุน 10% ของมูลค่าทองคำ ต่อ 1 ตั๋วสัญญา	1. ลงทุน 1.6% ของมูลค่าทองคำ ต่อ 1 ตั๋วสัญญา
ลงทุนต่อ 1 สัญญา 66,500 บาท	ลงทุนต่อ 1 สัญญา 50,000 บาท
2. ซื้อ-ขายทองคำได้ 50 บาท ต่อ 1 สัญญา	2. ซื้อ-ขายทองคำได้ 205 บาท ต่อ 1 สัญญา
3. มีการส่งมอบทุก 2 เดือน	3. ไม่มีการส่งมอบ
4. Order ต้องรอ Match(จับคู่ซื้อขาย)	4. Order ไม่ต้องรอ Match สามารถ ซื้อขายได้เลย
5. ค่าคอม เสียทั้ง ซื้อ และ ขาย	5. ค่าคอมเสียครั้งเดียว ต่อการ ซื้อ-ขาย
6. เวลาการซื้อขาย สั้น ตั้งแต่ 09:15 - 16:55น.	6. เวลาการซื้อขาย ยาว ตั้งแต่ 08:30 - 02:00น.
7. ราคาจะสูงกว่าราคาทองคำจริง	7. ราคาตามจริงจากตลาดโลก

ตารางเปรียบเทียบระหว่าง ตลาดหุ้น กับ SPOT GOLD
ตลาดหุ้น SET50 Index	ตลาด SPOT GOLD
1. ลงทุน 100% เช่นซื้อหุ้น Kbank 10kหุ้น	1. ลงทุน 1.6% จากมูลค่าจริง เช่นราคาทอง $930
หุ้นละ 300บาท เงินลงทุนเป็นเงิน 3ล้านบาท	ลงทุน 2 หุ้น มูลค่า 930*100*35 = 3,255,000฿
	เงินลงทุนเป็นเงิน 52,080บาท
2. เสียค่าคอม 0.25%*3ล้าน = 7,500฿	2. ค่าคอมคงที่ที่ $70 (2,450)
3. มีเสียภาษีเงินได้สุทธิ	3. ภาษีเสียรวมในค่าคอมแล้ว
4. ข่าวสารจากตลาดหุ้นไทยไม่แน่นอน	4. ข่าวสารแน่นอนชัดเจน ตามเศรษฐกิจโลก
5. มูลค่าของหุ้น มีโอกาสเป็น ศูนย์	5. มูลค่าของทองไม่เป็น ศูนย์ มีแต่ แพงกับถูก
6. ระยะเวลายาวนานในการฟื้นตัว	6. ระยะเวลาไม่ยาวนาน

ตารางเปรียบเทียบระหว่าง การซื้อทองคำแท่ง กับ SPOT GOLD
การซื้อทองคำแท่ง	ตลาด SPOT GOLD
1. ลงทุน 100% ตัวอย่างเช่นถ้าลงทุน ฿200,000	1. ลงทุน 1.6% ตัวอย่างเช่นถ้าลงทุน ฿200,000
(ราคาทองคำอยู่ที่ 15,500 บาท) จะสามารถซื้อ	จะสามารถซื้อตั๋วสัญญาได้ 4 หุ้น
ทองคำแท่งได้ 13 บาททองคำ	หุ้นละ 205 บาททองคำ รวมเป็น 820 บาททองคำ
2. การซื้อ-ขายไม่คล่องตัว	2. สามารถซื้อขายผ่านทาง Internet ได้
3. ทำกำไรได้ทิศทางเดียว	3. ทำกำไรได้สองทิศทาง
4. สมาคมผู้ค้าทองคำไทยมีการเพิ่มส่วนต่างใน  ราคาทองคำซึ่งแตกต่างจากราคาตลาดทองคำโลก	4. ลูกค้าสามารถตรวจสอบราคาได้อย่างชัดเจนจากข้อมูลตลาดทองคำโลก
5. ใช้ระยะเวลานานในการถือครองเพื่อทำกำไร	5. สามารถทำกำไรได้ตลอดเวลา